Ethereum (ETH)
มักถูกพูดถึงในฐานะเจ้าของสกุลเงินคริปโท ที่มีมูลค่าตลาดเป็นที่ 2 รองจาก Bitcoin แต่แท้ที่จริงแล้ว Ethereum เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ในโลกของคริปโท ที่ Bitcoin เองก็ไม่สามารถแทนที่ได้
Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ Blockchain แบบ Open source ซึ่งอนุญาตให้นักพัฒนาสร้างสัญญาอัจฉริยะหรือ Smart Contract และแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (Dapps) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงธุรกรรมประเภทต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องมีคนกลาง
ผู้ก่อตั้ง Ethereum
คอนเซ็ปต์ของ Ethereum Blockchain ถูกร่างขึ้นโดย Vitalik Buterin ชาวรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2013 จนกระทั่งถูกนำมาใช้งานจริงเมื่อปี 2015
วัตถุประสงค์ของเหรียญ
Ethereum เป็น Blockchain อีกเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งถึงแม้จะมีระบบกระจายศูนย์กลางในการประมวลผลเหมือนอย่าง Bitcoin Blockchain แต่สิ่งที่ทำให้ Ethereum เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไป นั่นคือการที่ Ethereum เป็น Programmable Blockchain หรือ Blockchain ที่สามารถให้ผู้ใช้งานใส่ Smart contract เข้าไปรันใน Blockchain ได้
จึงทำให้มีเหรียญ token อื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาบนแพลตฟอร์มของ Ethereum ผ่านระบบมาตรฐาน ERC-20
ตัวชี้วัดสำคัญ
|
Name
|
Age
|
Phone
|
|---|---|---|
|
ชื่อย่อ
|
ETH
|
|
|
ชื่อเต็ม
|
Ethereum
|
|
|
ประเภท / โปรโตคอล
|
ERC-20
|
|
|
อุปทานทั้งหมด
|
ไม่จำกัดจำนวนเหรียญ
|
|
|
วันที่สร้าง
|
กรกฎาคม 2015
|
|
|
สามารถขุดได้หรือไม่?
|
ได้
|
ข้อมูลเชิงลึก
- ERC-20 คือ ข้อกฎต่างๆ ที่เหรียญ Ethereum-Based Token ทุก ๆ ตัวต้องทำตาม เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างถูกต้อง
- Smart Contract & dApp Platform (World Computer) คอมพิวเตอร์กลางของโลกที่สามารถเขียนโปรแกรม dApp (Decentralized Application) โดยใช้ Smart Contract ได้อย่างอิสระ
- ค่า Gas คือ ค่าธรรมเนียมของธุรกรรมบน Ethereum มีการกำหนดค่า Gas Limit เพื่อไม่ให้มีการเสียค่าธรรมเนียมมากเกินไป
คำเตือน
คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
